Darkseid ( ดาร์คไซด์ ) วายร้ายผู้ทรงอำนาจที่สุดแห่งจักรวาล DC
ถ้าให้จัดลำดับอวายร้ายอในจักรวาล DC ตนที่ยิ่งใหญ่และมีพลังอำนาจมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเขาคนนี้ “ Darkseid หรือ ดาร์คไซด์ ” ไม่ว่าจะเป็นขนาดร่างกาย, สถานะ, พละกำลัง วันนี้เรามีบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Darkseid มาฝากเพื่อน ๆ กันครับ
Darkseid ( ดาร์คไซด์ ) เป็นผลงานของ”แจ๊ค เคอร์บี้”ผู้ให้กำเนิดจักรวาลมาร์เวล ร่วมกับ สแตน ลี แต่ในช่วงยุค 70 ด้วยความรู้สึกว่าตนไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร(เคอร์บี้มักพูดเสมอว่า”เขา”คือผู้สร้างจักรวาลมาร์เวล ไม่ใช่สแตน ลี) เคอร์บี้จึงย้ายค่ายมาDC และสิ่งที่เขาสร้างคือเรื่องราวระดับจักรวาลที่มีชื่อว่า Fourth World ที่เล่าถึงดาวแฝด ที่ดวงหนึ่งเป็นดั่งสรวงสวรรค์ พวกเขาถูกเรียกว่า “New Gods” ทุกผู้คนมีชีวิตสุขสมูรณ์บนดาวที่งดงามมีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวประจำตัวช่วยงานต่างๆ(คงคล้ายๆสมาร์ทโฟนในโลกของเรา)ที่เรียกว่า”มาเธอร์บ็อกซ์” พวกเขาอยู่ภายใต้การปกครองของ High Father แต่ตรงข้ามบนดาวคู่แฝดที่มีชือว่า Apokolips ทุกชีวิตล้วนเป็นทาสใต้การปกครองของจอมเผด็จการที่ไม่เคยเห็นว่าชีวิตใครมีค่านามว่า ดาร์คไซด์ และเพราะความต่างกันสุดขั้วเช่นนี้ทำให้ดาวทั้งสองทำสงครามรบพุ่งกันมานาน จนกระทั่งในที่สุดก็ตกลงทำสัญญาสงบศึกกัน โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเพื่อประกันไม่ให้อีกฝ่ายหักหลังโดยการแลกบุตรชายของผู้นำสูงสุดของทั้งสองฝ่ายไปเป็นตัวประกันบนดาวของอีกฝ่าย ดังนั้น”โอไรอ้อน”บุตรชายของดาร์คไซด์จึงเติบใหญ่บนนิวเจเนซิส ขณะที่ สก็อต ฟรี หรือ มร.มิราเคิล สุดยอดนักหลบหนีแห่งจักรวาล บุตรแห่ง ไฮฟาเธอร์ก็ไปเติบใหญ่บนดาวขุมนรกอย่าง อะโพโคลิปส์ โดยแจ็ค เคอร์บี้เล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านหนังสือสามหัวคือ Forever People , Mister Miracle และ New Gods
ดาร์คไซด์ ปรากฎตัวครั้งแรก(แบบไม่เห็นตัว)ใน Superman’s pal Jimmy Olsen # 134(พฤศจิกายน 1970) ก่อนที่จะปรากฎตัวแบบชัดๆใน Forever People#1 (กุมภาพันธ์ 1971) ที่ดาร์คไซด์มายังโลก(ด้วยการเดินทางแบบของชาวดาวแฝดนี้ อุโมงค์วาร์ปที่เรียกว่า “บูมทิวป์” ที่พาพวกเขาไปไหนก็ได้ เพื่อตามหา Anti-Life Equation ซึ่งจะทำให้เขาสามารถครอบครองทั้งจักรวาลให้มาสยบอยู่แทบเท้าเขา และเปลี่ยนแปลงมันให้เป็นไปตามใจของเขา เรื่องชุด Fourth World นี้ยิ่งใหญ่ซับซ้อนมาก ผมตัดเอาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับดาร์คไซด์มาเล่าเท่านั้นเรื่องราวเก่าก่อนอะไรก็ช่างมันไปก่อนนะครับ เพราะเหตุนี้มั้งเรื่องชุดนี้จึงไม่ได้รับการตอบรับ(ผมว่าเรื่องมันค่อนข้างจะดาร์คไปหน่อยขาดอารมณ์ขันแบบที่งานของลี-เคอร์บี้มีด้วยล่ะ)จึงถูกตัดจบ พร้อมกับที่เคอร์บี้ย้ายกลับไปมาร์เวลอยู่ช่วงสั้นๆ ที่เขาจะไปสร้างมหากาพย์อวกาศอีกเรื่องคือ The Eternals
แต่ถึงเรื่องที่ให้กำเนิดดาร์คไซด์ขึ้นมาจะถูกตัดจบ แต่ดาร์คไซด์และเรื่องราวของ New Gods ก็ไม่ได้หายไปไหน แต่ถูกหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลDC ดาร์คไซด์กลายเป็นภัยคุกคามของจักรวาลDC ด้วยพลังอำนาจที่เขามี ทำให้ต้องยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ ซูเปอร์แมนมีคู่ปรับที่เหนือกว่าเขาทุกด้าน และที่สุดดาร์คไซด์ก็เป็นแรงบันดาลใจให้จิม สตาร์ลินสร้างตัวละคร “ธานอส”ให้มาร์เวล
แรกปรากฎตัวนี่ดาร์คไซด์มีใบหน้าเหมือนสลักจากหิน กับตัวสีน้ำเงินเรียบๆที่ต่อมาก็ค่อยๆพัฒนาให้ซับซ้อนดูเป็นชุดเกราะมากขึ้น เอกลักษณ์คือเขาจะอยู่ในท่าเอามือไขว้หลังไว้ด้วยท่าทางหยิ่งผยองเป็นประจำ พละกำลังว่ากันว่าเขามีมากกว่าซูเปอร์แมน แถมยังอยู่ยงคงกระพัน มีช่วงชีวิตที่ยาวนาน มีพลังจิตบังคับวัตถุ และโทรจิต แถมมีอาวุธร้ยอย่าง “โอเมก้าบีม”ที่ยิงจากตาทั้งสองข้างที่วิ่งไล่ตามเป้าหมายได้ตลอดจนกว่าจะสัมผัสเป้าและเปลี่ยนมันเป็นผุ่นผง ในบทสัมภาษณ์เคอร์บี้เล่าว่าเขาเอาหน้าดาร์คไซด์มาจากดาราอย่าง”แจ๊ค พาแลนซ์” และ บุคลิกจาก อดอล์ฟ ฮิทเลอร์ กับ ริชาร์ด นิกสัน
ในหนัง Justice League ซึ่งดูจะเอาพล็อทมาจากคอมิค Justice League ฉบับ New 52 ดาร์คไซด์มุ่งจะมายึดโลกเพื่อตามหา Anti-Life Equation ทำให้เหล่าฮีโร่ที่ล้วนเป็นหน้าใหม่ของจักรวาล DC ต้องรวมพลังก่อตั้ง Jusice League
ที่เล่ามานี่คือประวัติดาร์คไซด์ฉบับดั้งเดิมแน่นอนว่าผ่านมากว่า 50 ปีก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันไปบ้างแต่แค่นี้ก็ยาวมากแล้วไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าใหม่แล้วกันนะครับ
