Takahashi Ryosuke# 4  Blue Comet SPT Layzner 

Takahashi Ryosuke# 4 Blue Comet SPT Layzner 


Takahashi Ryosuke# 4

Blue Comet SPT Layzner 

ผลงานเรื่องต่อไปของทากาฮาชิ Blue Comet SPT Layzner เล่าเรื่องโลกอนาคต(ปี 1996)ด้วยมุมมองจากปี1985 เรื่องราวของเลยส์เนอร์ช่วงแรกมีอยู่ว่า ในปี 1996 โลกยังอยู่ในสภาพการเผชิญหน้าของสองมหาอำนาจ สหรัฐกับ โซเวียตในช่วงสงครามเย็น เพื่อหาหนทางที่คนรุ่นต่อไปอาจจะช่วยยุติปัญหานี้ได้ จึงมีการส่งเด็กของทั้งสองชาติขึ้นไปอาศัยร่วมกันบนฐานที่ดาวอังคาร 

เพียงแต่ว่างานนี้มีมนุษย์ต่างดาว จากดาวกราโนเซียนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนชาวโลกเข้าแทรกแซง  จะให้เกิดความขัดแย้งและสงครามเพื่อจะได้เข้ายึดครองโลก  แต่เอย์จิเด็กหนุ่มลูกครึ่งชาวโลกกับกราโนเซียนขโมย”เลย์สเนอร์”ออกมาเพื่อเตือนภัยไม่ให้เกิดสงคราม 

ส่วนท่อนสุดท้ายโลกจะถูกยึดครองแล้ว และเป็นการต่อสู้เพื่อขับไล่มนุษย์ต่างดาวโดยเอย์จิ กับเพื่อน ในสภาพที่คล้ายๆ กับการ์ตูนฮิตร่วมสมัยในยุคนั้นอย่าง”หมัดเทพเจ้าตาวเหนือ” 

 

“ในการทำ Blue Comet Layzner เรื่องแรกที่ผมคิดคือหุ่นจะบินยังไง  ผมเห็นว่าเมื่ออยู่ในความควบคุม มันจะบินได้อย่างสวยงามราวกับดาวหางสีน้ำเงิน แต่ถ้าสูญเสียความควบคุม มันก็จะเป็นแค่เศษเหล็ก และมันก็จะมีความแตกต่างกันมากระหว่างสถานะทั้งสอง” 

 

“ส่วนหุ่นในเรื่องจากเรื่องก่อนๆของผมที่เป็นเพียงแค่เหมือนยานพาหนะ  มันจะอยู่ใต้การควบคุมของคนขับ แต่ในเรื่องนี้ผมอยากให้เครื่องจักรมีเจตนาของตัวเอง เพราะงั้นมันต้องมีจิตวิญญาณมีการรับรู้ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ใส่มันลงไปตั้งแต่เริ่มต้น ผมไม่อยากให้เลย์สเนอร์ถูกมองว่าเป็นจักรกลพูดได้ที่เป็นคู่หูของพระเอก เพราะงั้นเริ่มต้นเลย์สเนอร์จึงเป็นเครื่องยนต์ที่เอย์จิขับ  แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป เขาจะพบว่าจักรกลนั้นมีจิตเจตนาของตนเองอยู่ภายใน ซี่งจะแสดงออกมาในรูปของ Fouron ซึ่งก็คือจิตเจตนาของพ่อของเอย์จิ และนี่คืออีกครั้งที่ตัวแทนของพ่อปรากฎออกมา(ในเรื่องของผม)”  

“ตอนนั้นยังมีสงครามเย็น การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐกับโซเวียตอยู่เลย  ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากจะกลับไปเพิ่มเนื้อหาว่าเราอาจจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร  จะแก้ไขความขัดแย้งระหว่างทั้งสองชาติได้อย่างไร ถึงเลย์สเนอร์จะเป็นแค่อะนิเมะ แต่ผมก็อยากจะใส่ลงไปในเนื้อหาที่เด็กดูว่าเราจะแก้ไขความขัดแย้งนี้ได้อย่างไร” 

“ส่วนชื่อของเอย์จิ ผมได้มาจาก เอย์จิ ยามามูระ ที่เป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนของซันไรส์ในตอนนั้น เราสนิทกันมาก แล้ววันหนึ่งเขามาบอกผมว่า ซีรี่ส์ของคุณขายได้ไม่ดีพอ เพราะงั้นคุณควรทำอะไรสักอย่าง  แล้วเขาก็ให้คำแนะนำกับผม  ซึ่งจริงๆมันก็คือสถานะการณ์ที่มีทางเลิอก 2 ทาง คือพวกเด็กๆนั้นจะรับรู้ว่าเกิดวิกฤตได้ใน 2 สถานพการณ์ หนึ่งคือ เมื่อโลกตกอยู่ในอันตราย  กับ อีกอย่างคือเมื่อครอบครัวของพวกเขาถูกคุกคาม  ในสองทางนี้  ผมเลือกให้โลกถูกคุกคาม  นี่จึงกลายเป็นประโยคแรกของเอย์จิในเรื่อง นั่นก็คือ โลกกำลังถูกคุกคาม และเพราะยามิมูระให้ไอเดียเหล่านี้กับผม ผมก็เลยคิดว่า จะเป็นอะไรไปถ้าผมจะเรียกตัวเอกว่าเอย์จิ” 

“ในส่วนของความหมายของชื่อ Rei กับ Fouron มันไม่ได้มีความหมายถึง ศูนย์ กับ หนึ่ง อะไรหรอก ผมเลือกโฟรอน จากเสียงของมันล้วนๆ ผมมีลิสท์รายชื่อ และผมเริ่มจาก “Philosophy” แล้วก็เล่นกับ ตัวอักษร ตัวสะกด จนกระทั่งออกมาเป็น โฟรอน มันก็แค่ฟังดูดีสำหรับผมเท่านั้นเอง” 

 

“ในส่วนของการเคลื่อนไหวของจักรกลในเรื่อง Anime Rเก่งที่สุดในญี่ปุ่นในตอนนั้น นั่นทำให้เลย์สเนอร์น่าจะมีคุณภาพอะนิเมชั่นดีที่สุด  ในหมู่ยอดอะนิเมเตอร์ที่ทำงานให้ Anime Rในตอนนั้น โมริยาสึ ทานิกูจิ ก็อยู่ที่นั่น เราอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน  ตอนนั้นผมคิดว่าผมแก่และตกยุคไปแล้ว และน่าจะลาออกไปซะ แต่ทานิกูจิที่อายุพอๆกับผมบอกผมว่า เขายังไม่รู้สึกว่าเขาทำอะไรสำเร็จสักอย่าง และเพราะผมเชื่อมั่นในความปรารถนาแรงกล้าของเขา ผมเลยให้ทานิกูจิออกแบบตัวละคร และกำกับอะนิเมชั่นในหลายๆจุด นั่นทำให้เขาอินกับเรื่องนี้มากๆ และน่าจะเป็นเหตุให้อะนิเมชั่นออกมาพิเศษและมีคุณภาพดีมากๆ  อีกอย่าง สตูดิโอของStudio R นั้นตั้งอยู่ที่โอซาก้า ขณะที่สตูดิโออะนิเมะส่วนใหญ่อยู่ที่โตเกียว ผมเลยต้องเรียกทานิกูจิมาโตเกียวเพิ่อมาทำงานนี้” 

แต่เลย์สเนอร์ก็ถูกตัดจบ แรกเริ่มเดิมทีคิดกันว่าสาเหตุน่าจะมาจากการถอนตัวของหนึ่งในสปอนเซอร์หลัก บริษัทซันโย แต่คุณทากาฮาชิไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเหตุนั้น “เกี่ยวกับเรื่องที่เลยส์เนอร์ถูกตัดจบ ผมไม่รู้รายละเอียดเบื้องหลังเรื่องของซันโยเป็นสปอนเซอร์หรอกนะ  จริงที่ว่าพวกเขาถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ แต่ผมคิดว่าสาเหตุที่เลย์สเนอร์โดนตัดจบ น่าจะแค่เพราะสองเรื่องนี้มากวว่า ไม่เพราะเรทติ้งไม่ดี ก็เพราะของเล่นกับโมเดลขายไม่ดี(ขอแทรกนิดอดไม่ได้จริง โมรุ่นนี้บันไดทำได้ห่วยจริงขายไม่ได้นี่ไม่แปลกเลย) แต่ผมคิดว่าในกรณีนี้อาจเพราะทั้งสองอย่าง” 

 

เลย์สเนอร์ยังคงมีคอนเซปท์เกี่ยวกับอารยะธรรมโบราณที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่ ซึ่งปรากฎในงานหลายต่อหลายชิ้นของทากาฮาชิ เขาอธิบายว่า “บอกตามตรงผมไม่มีความรู้เรื่องนิยายวิทยาศาสจร์ หรือเรื่องการทหารดีเท่าไรหรอก และเพราะไม่เก่งเรื่องพวกนี้ ผมเลยมีแค่ไอเดียคร่าวๆว่าอารยะธรรมรุ่งเรืองเฟื่องฟูแล้วล่มสลายลงไป แล้วกลับมารุ่งเรืองใหม่เป็นวัฏจักรแล้วการเกิดใหม่นี้ก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ  บางทีนะเทคโนโลยี่บางอย่างที่เรามีในตอนนี้ อาจจะมีมาแล้วตั้งแต่ในอดีต  อาจจะในรูปแบบที่ต่างกัน แต่คล้ายคลึงกัน จากไอเดียนี้แหละที่ผมใช้สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา” 

    


การชำระเงินผ่าน อินเตอร์เน็ต แบงกิ้ง

(เสียค่าบริการ Vat 7%)

powerupmag

การชำระเงินผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส

(เสียค่าบริการ Vat 7%)

powerupmag

ช่องทางขนส่งสินค้า

จัดส่งสินค้าภายใน 3-7 วันทำการ

powerupmag
Copyright © 2018 All rights reserved. | powerupmag.com