Anime Talk Shaman King ราชันย์แห่งภูต 2021

Shaman King ราชันย์แห่งภูต 2021

การกลับมาอีกครั้งของ Shaman King ราชันย์แห่งภูต ฉบับอนิเมชั่น ที่คราวนี้ทางทีมสร้างตั้งใจที่จะสร้างให้จบตามต้นฉบับหนังสือการ์ตูนจริงๆ ไม่ใช่ตัดจบแบบอนิเมชั่นชุดแรกหรือจบแบบตำนานปาหมอนเหมือนที่ลงในนิตยสารรายสัปดาห์โชเน็นจัมป์เมื่อปี 2004 ที่เล่นเอาคนเหวอกันไปทั่วโลก (และคำว่าปาหมอน ก็กลายเป็นนิยามของการตัดจบหนังสือการ์ตูนที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ ณ ปีนี้ สตูดิโอ Bridge หน้าใหม่ไฟแรงของวงการก็จะพาผู้ชมกลับเข้าสู่โลกของการต่อสู้ด้วยพลังวิญญาณกันอีกครั้ง พร้อมกันหรือยัง!

ย้อนรำลึก Shaman King ฉบับการ์ตูน

Shaman King เป็นผลงานการ์ตูนของ อ.ฮิโรยูกิ ทาเคอิ ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ช่วงปี 1998 – 2004 โดยเป็น เรื่องราว อาซาคุระ โย เด็กหนุ่มผู้เกิดในตระกูลชาแมน และมีพลังมองเห็นวิญญาณ สามารถติดต่อสื่อสารและดึงเอาพลังวิญญาณมาใช้ได้ด้วยการรวมร่างเข้าทรง ซึ่งช่วงแรกๆ ก็เป็นเหมือนการที่โยใช้พลังของตนในการช่วยเหลือเหล่าวิญญาณให้ไปสู่สุขคติ แต่ไปไปมามา แนวทางการ์ตูนก็เปลี่ยนไปในแนวทางการ์ตูนต่อสู้ตามกระแสนิยมในยุค 90s ที่โยต้องต่อสู้กับเหล่าชาแมนคนอื่นๆ เข้าร่วมศึกชาแมนไฟท์ที่จะจัดขึ้นทุก 500 ปีเพื่อที่จะเป็นชาแมนคิงซึ่งมีพลังอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้ และเหล่าชาแมนในเรื่องก็จะมีเป้าหมายในการเป็นชาแมนคิงที่แตกต่างกันไป ทว่าสุดท้ายการ์ตูนเรื่องนี้กลับถูกตัดจบไปเสียก่อน (ฉากปาหมอนในตำนาน) หลังจากนั้นจึงมีการเขียนเนื้อเรื่องเสริมเข้ามาจนกลายเป็นตอนจบที่สมบูรณ์จริงๆในฉบับรวมเล่มรอบใหม่ Shaman King Kanzen-Ban ซึ่งบ้านเราก็เคยตีพิมพ์จบชุดไปแล้วด้วยเช่นกัน

ฉบับอนิเมใหม่ที่ต่างจากฉบับเก่า

ด้วยความโด่งดังของชาแมนคิงในตอนนั้น ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เคยถูกสร้างเป็นอนิเมเมื่อปี 2001-2002 โดยสตูดิโอ Xebec ความยาว 64 ตอน ซึ่งตัวอนิเมในตอนนั้นก็ถือว่าโด่งดังไม่น้อยครับ ทั้งเพลงประกอบที่ติดหูจนภาคใหม่ยังเอามาใช้เป็น insert Song เนื้อเรื่องก็ดูสนุกดี โดยภาพรวมก็ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย แต่ชาแมนคิงอนิเมเวอร์ชั่นเดิม ก็มีหลายจุดที่แฟนๆ ไม่ค่อยชอบเอามากๆ เนื่องจากอนิเมเรื่องนี้ตัดจบไปตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งตอนนั้นเนื้อเรื่องในหลังสือการ์ตูนยังไม่ทันจบเลย ตัวอนิเมจึงมีการเขียนเนื้อเรื่องในศึกชาแมนไฟท์ใหม่ออกมาตามสูตรการ์ตูนโชเน็น คือรวมพลังสามัคคีชนะได้ทุกอย่าง แถมโอเวอร์โซลสุดยอดในอนิเมก็กลายเป็นร่างหุ่นยักษ์ตีกันเฉยเลยครับ ซึ่งแน่นอนครับว่าถ้าใครเป็นแฟนชาแมนคิงจริงๆ ก็จะเห็นว่ามันหลุดไปจากธีมของเรื่องจริงๆ ในต้นฉบับเยอะมาก จนมีการพูดถึงกันเยอะว่า จะมีการรีเมคอนิเมเรื่องนี้อีกครั้งหรือเปล่า และสุดท้ายหวยก็มาตกอยู่ที่ สตูดิโอ Bridge นี่เองครับ

อนิเมใหม่โฟกัสไปที่ชาแมนไฟท์เลย

สตูดิโอที่สร้างชาแมนคิง 2021 ก็คือ สตูดิโอ Bridge ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2007 แต่ทีมงานหลักๆ ก็เป็นลูกหม้อเก่าจาก Sunrise ซึ่งในเวอร์ชั่น 2021 นี้ สร้างขึ้นมาหลังจากที่คอมมิคจบไปนานมากแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องกั๊กเนื้อหาอะไร ตัวอนิเมเฉลยกันตั้งแต่ตอนแรกเลยว่า โย กับ ฮาโอ เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน และตัดเนื้อเรื่องช่วงแรกที่ไม่เกี่ยวกับชาแมนไฟท์ไปเยอะ เร่งสปีดการต่อสู้ในช่วงแรกให้จบกันแบบหนึ่งคนต่อหนึ่งตอน จนดูเหมือนเดินเรื่องเร็วมากจนเกินไป เพราะตัวอนิเมภาคนี้เหมือนจะโฟกัสไปที่ชาแมนไฟท์เลยครับ แค่ไม่กี่ตอนก็โอเวอร์โซลกันเป็น แถมแค่ 13 ตอนแรกก็ออกจากเกาะญี่ปุ่นเข้าบทชาแมนไฟท์กันแล้ว ซึ่งถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ตัวอนิเมภาคนี้น่าจะเร่งให้จบเนื้อเรื่องทั้งหมดใน 52 ตอน สั้นกว่าของเก่าที่ยาว 64 ตอน แต่ฉบับใหม่จะมีเนื้อเรื่องที่อัดแน่นมากกว่า และจะเป็นตอนจบที่แท้จริง ไม่ได้จบแบบปาหมอน หรือด้นสดเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ด้วยครับ แต่ก็ยังมี Reference ถึงเวอร์ชั่นเก่า อย่างการนำเพลงเปิดของอนิเมชุดแรกมาใช้เป็น Insert Song ในเวอร์ชั่นนี้ด้วย ลายเส้นของใหม่ก็ถือว่าสวยดี ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยขึ้น น่าจะถูกใจทั้งแฟนเก่าและแฟนใหม่อยู่ไม่น้อย

จักรวาลของชาแมนคิงยังไม่จบนะครับ

ถ้าใครที่เป็นแฟนผลงานของ อ.ฮิโรยูกิ ทาเคอิ ก็จะรู้ว่า ภายหลังจากที่ชาแมนคิงจบชุดไป อ.ฮิโรยูกิก็ยังคงสานต่อจักรวาลของชาแมนคิงออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่คอมมิคภาคเสริมอย่าง Shaman King: Zero (2 เล่มจบ) ไปจนถึง Shaman King: Flowers (6 เล่ม) ที่เป็นเสมือนภาคต่อของเรื่องนี้ (รุ่นลูก) แต่ก็ดันถูดตัดจบ(อีกแล้ว) เพราะนิตยสารที่ตีพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้ปิดตัวลง สุดท้าย อ.ฮิโรยูกิก็เลยย้าย สนพ.ต้นสังกัดจากเดิม (ชูเอย์ฉะ) มาอยู่โคดันฉะ และสานต่อตำนานชาแมนคิงที่ค้างคาอยู่ ในผลงานชุด Shaman King: The Super Star (2018 – ปัจจุบัน) ซึ่งแฟนๆ เรื่องนี้ก็แอบคาดหวังไว้ว่า ถ้าอนิเมซีรี่ส์ 2021 ประสบความสำเร็จ เราก็อาจจะมีลุ้นได้ดูอนิเมชาแมนคิงรุ่นลูกกันต่อ ซึ่งตอนนี้ชาแมนคิง (2021) 13 ตอนแรกก็ลง Netflix ให้เราได้ชมกันแล้ว แถมมีพากย์ไทยด้วย ดูทรงแล้วก็น่าจะมาให้ชมกันทีละ 13 ตอนจนจบแหละครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากแนะนำให้ลองดูกันนะครับ