Takahashi Ryosuke#3
Panzer World Galient
ผลงานอะนิเมะแนวหุ่นยนต์สองเรื่องแรกของทากาฮาชิพาคนดูไปสู่โลกที่เหมือนเป็นอนาคต เนื้อหาไซไฟ มันจึงน่าแปลกที่งานชิ้นที่สามของเขากลับพาคนดูไปยังโลกยุคกลางที่ใช้ดาบ และดูเหมือนจะมีเวทมนตร์ ออกมาเป็นอะนิเมะหุ่นยนต์ที่ฉากเป็นยุคกลางอย่าง Panzer World Galient (1984)
กาเลี่ยนเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์ “อาร์ส”ที่มีสภาพคล้ายโลกยุคกลาง อาวุธหลักก็คือดาบ แต่เมื่อมาดาร์ผู้ทะเยอทะยานพบอาวุธจากอารยะธรรมที่สาปสูญไปแล้ว”หุ่นยนต์ยักษ์” โฉมหน้าสงครามก็เปลี่ยนไป ด้วยทัพหุ่นยนต์ เขาสามารถพิชิตได้ไร้ผู้ต่อต้าน รวมทั้งอาณาจักรโบลด้าที่ก็ถูกมาดาร์ทำลายและยึดครอง จอร์ดี้รัชทายาทที่ถูกพาหนีออกไปได้ใต้การดูแลของขุนพลเฒ่าอาสเวล ค้นพบหุ่นในตำนาน”กาเลี่ยน”และกลับมาโค่นล้ม มาดาร์และหวังจะช่วยแม่ที่ถูกจองจำ
กาเลี่ยนยังคง”ขนบ”และโครงสร้างอะนิเมะหุ่นยนต์ไว้ แต่มีส่วนประกอบแบบแฟนตาซี ดาบ และเวทมนต์มาเป็นองค์ประกอบ”ตอนทำหนังเรื่องที่สาม ผมอยากได้ฉากเป็นโลกยุคกลาง พวกหุ่นยนต์เป็นสิ่งที่หลงเหลือมาจากยุคอื่น พวกหุ่นก็เลยจะถูกขุดขึ้นมาจากดิน แล้วตอนนั้นหนังแนวดาบและเวทมนต์กำลังดังพอดี ในมุมมองของธุระกิจและเมอรแชนไดส์ ผมต้องสะท้อนแนวคิดนี้ลงไปในตัวหุ่นด้วย
อีกเรื่องที่พูดกันเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็คือใครกันแน่เป็นคนออกแบบแมคคานิคส์ในเรื่องนี้ ตัวกาเลี่ยนนั้นดีไซน์โดยคุณโอคาวาร่า คูนิโอะ แต่หุ่นตัวอื่นๆนั้นออกแบบโดยคุณ อิสุบุจิ ยูทากะ คือตอนนั้นคุณโอคาวาร่ากำลังดังมาก ใครจะออกแบบหุ่นก็มักจะเรียกใช้เขา ทำให้เขามีงานวุ่นวายมาก ช่วงนั้นพอดีผมรู้จักกับคุณอิสุบุจิ ก่อนที่คุณโอคาวาร่าจะออกแบบตัวกาเลี่ยนเสร็จ และผมรู้ว่าเขาเก่งเรื่องออกแบบเกราะแบบตะวันตก ผมเลยอยากให้เขาออกแบบหุ่นที่เหลือออกมาในแบบชุดเกราะแฟนตาซีแบบตะวันตก แล้วผมยังรู้สึกว่างานออกแบบของอิสุบุจิ มันแฝงความเซ็กซี่ไว้ เลยอยากให้เขาทำ ช่วงนั้นพอดีเขามาทำงานที่ซันไรส์ เราก็เลยได้สังสรรค์กันเป็นประจำ แต่ที่ผมไม่รู้เลยคือ ขณะที่โอคาวาร่าทำงานออกแบบได้เร็วมาก อิสุบุจิก็ทำงานได้ช้ามากๆ เขาไม่เคยส่งงานออกแบบให้สตูดิโอได้ทันเวลาเลย นั่นแหละคือเรื่องที่ผมทำพลาด
“ในส่วนของเนื้อเรื่อง อย่างที่เคยบอกไปว่าครอบครัวเรามีกันแค่ สองคนแม่ลูก นั่นเพราะพ่อผมไปรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนที่ผมจะเกิดแค่เดือนเดียว แล้วท่านก็ไปเสียชีวิตในการรบที่นิวกีนี ผมก็เลยไม่มีโอกาสได้รู้จักท่าน เพราะงี้มั้งเรื่องของผมถึงมีตัวละครที่แทนตัวพ่ออยู่ในเรื่องเสมอ แล้วส่วนใหญ่ก็จะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพระเอกเสียด้วย อย่างในดั๊กแกรมก็คือพ่อของคริน ในโวทอมส์ก็คือไวส์แมน ส่วนในกาเลี่ยนท์นี่ก็คือ มาดาร์ จอมวายร้ายของเรื่อง เขามีความคิดว่ามนุษย์ควรจะเป็นอย่างไร และเขาก็ต่องการให้จอร์ดี้เป็นอย่างนั้น แต่จอร์ดี้กลับต่อต้านเขา มันจึงเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างพ่อลูกเสมอ”(หรือว่าที่คุณทากาฮาชิกำลังจะบอกเราว่าเพราะไม่มีความสัมพันธ์ฉันพ่อลูกที่ดีเป็นต้นแบบ เรื่องของเขาจึงมีฐานที่ความขัดแย้งของพ่อ-ลูกเป็นประจำ)
“อีกเรื่องที่เห็นในเรื่องแฟนตาซีเป็นประจำคือ ตัวเอกจะได้ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงมาจากก้อนหิน ในเรื่องนี้ผมก็เปลี่ยนดาบศักดิ์สิทธิ์นั่นเป็นหุ่นกาเลี่ยนซะ”
หลังจบชุดทางทีวี ในปี 1986 ได้มีการออก OVA ของกาเลี่ยน ความยาว 3 ตอนจบออกมา โดยสองตอนแรกเป็นการสรุปเนื้อหาของภาคทีวี แต่ตอนที่สามเป็นเนื้อหาใหม่ เป็นเรื่องราวของกาเลี่ยนในจักรวาลคู่ขนานก็ว่าได้ โดยเปลี่ยนให้มาดาร์เป็นคนดีหวังจะรวมโลกให้เป็นปึกแผ่น แต่เมื่อไฮลูกชายคนโตหักหลังพ่อ จอร์ดี้ลูกชายคนเล็กก็ต้องออกค้นหายักษ์ในตำนาน”กาเลี่ยน”เพื่อมาหยุดยังพี่ ในภาคนี้จอร์ดี้จะเป็นผู้ใหญ่แล้วครับ ในขณะที่ภาคทีวียังมีความรู้สึกที่สมจริงอยู่มากในภาค Crest of Iron นี้กลับมีความรู้สึกที่เป็นแฟนตาซีกว่าเดิม ตุณทากาฮาชิอธิบายว่า
“โดยข้อเท็จจริง ถึงภาคนี้จะมีชื่อผมเป็นผู้กำกับ และมีชื่อคุณ อิเคดะ มุซาชิ เป็นผู้กำกับย่อย แต่ความจริงงานที่ออกมา 80% เป็นฝีมือของเขา อิเคดะยังกำกับ Votoms ภาคหลังๆ อย่าง Alone Again ด้วย ถึงผมจะเป็นคนเขียนเรื่องนี้ในฉบับนิยายก็เถอะ แต่อิเคดะเป็นคนกำกับ เราเคยร่วมงานกันมาทั้งใน ซามูไร ทรูปเปอร์ด้วย เขายังเคยทำงานอย่าง Gundam Wing ด้วยนะ ผมว่าเขาเก่งนะเรื่องให้หุ่นโพสท์ท่าเท่ๆ แบบที่ตัวละครคาบูกิต้องทำเวลาเกิดเรื่องสำคัญ อิเคดะเก่งเรื่องแบบนี้มาก ผมเลยว่างานนี้เหมาะกับเขามาก เพราะงั้นวิช่วลหรือแนวทางที่ออกมาเป็นแฟนตาซีมากขึ้นจึงมาจากอิเคดะ””