Anime Talk คุยส่งท้ายหลังดู ก็อดซิลล่า ปฐมบทวิบัติโลก Godzilla Singular Point จบแล้ว

Anime Talk คุยส่งท้ายหลังดู ก็อดซิลล่า ปฐมบทวิบัติโลก Godzilla Singular Point จบแล้ว


Anime Talk

คุยส่งท้ายหลังดู ก็อดซิลล่า ปฐมบทวิบัติโลก Godzilla Singular Point จบแล้ว  

ตอนที่ทำคลิป Godzilla Singular Point ตอนนั้นเป็นช่วงที่อนิเมเพิ่งลงใหม่ๆเลยไม่อยากพูดสปอยล์เนื้อหาอะไรมากนักเพราะกลัวจะเสียอรรถรสในการรับชมไป เพราะเนื้อหาของภาคนี้มีจุดเซอร์ไพร์สค่อนข้างเยอะ แต่พอถึงตอนนี้คิดว่าเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้ว (น่าจะราว 1 เดือนได้) ก็เลยคิดว่า น่าจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันต่อจากในคลิป ถือว่าเป็นการแชร์มุมมองและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ 

 

ก็อดซิลล่า ที่ไม่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ และเนื้อหาที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น 

ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของก็อตซิลล่า มักจะถูกผูกจุดกำเนิดเชื่อมโยงกับพลังงานนิวเคลียร์มาโดยตลอด เพราะก็อตซิลล่านั้นเดิมทีถือกำเนิดมาจากความหวาดกลัวนิวเคลียร์ของชาวญี่ปุ่น (ภาคแรกฉายปี 1954 หรือ 9 ปี หลังจากที่เกาะญี่ปุ่นโดนนิวเคลียร์ถล่ม) และหลังจากนั้น ภาพลักษณ์ของก็อตซิลล่า ทั้งญี่ปุ่นและอเมริกา ก็เกี่ยวพันกับพลังงานนิวเคลียร์มาตลอด จนกระทั่งภาค Singular Point นี่แหละครับ ที่เกิดความเปลี่ยนแปลงจุดกำเนิดและความเป็นมาของก็อตซิลล่าและสัตว์ประหลาดในเรื่อง โดยใส่ความเป็นวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้าไปมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะ  Enjo To คนเขียนบทเรื่องนี้ เป็นนักเขียนไซไฟชื่อดัง  เรียนจบด้านฟิสิกส์จากโคโฮขุ ก่อนหน้านี้เคยเขียนบทอนิเม Space Dandy มาก่อนด้วย (เป็นอนิเมไซไฟที่ค่อนข้างดังเฉพาะกลุ่มเรื่องหนึ่ง) พล็อตของเรื่องจึงกลายเป็นไซไฟหนักๆ มากที่สุดภาคหนึ่ง จนบางคนถึงกับมึนทฤษฎีในเรื่องไปเลยก็มี (ซึ่งถ้ามีโอกาส เราอาจจะชวนนักวิทย์ตัวจริงเสียงจริงมาคุย มาอธิบายเรื่องนี้อีกที)  

 

เด็กเนิร์ดกู้โลก กับการเล่าเรื่องแนวใหม่ 

จุดเด่นของภาคนี้ก็คือ ตัวเอกทั้งสองคน อาริคาวะ ยุน วิศวกรโปรแกรมที่หน้าตาดูราวกับหลุดออกมาจากเรื่องกินทามะ (ในตอนแรกมีซีนที่ยุนแกซัดฟาร์เฟต์ถ้วยใหญ่เหมือนคุณกินด้วยนะ ลองสังเกตดู ส่วนโอทาคิแฟคตอรี่ที่ยุนทำงานอยู่เอาจริงๆ ก็มีส่วนคล้ายร้านรับจ้างสารพัดอยู่ไม่น้อย คือรับทำงานจิปาถะนั่นแหละ) กับ คามิโนะ เมย์ นักศึกษาผู้สนใจในเรื่องราวของเหล่าสัตว์ประหลาด ที่บังเอิญได้รู้จักกัน ซึ่งเอาจริงๆ คาแรกเตอร์ของทั้งสองก็มาสไตล์เด็กเนิร์ดทั้งคู่เลยครับ คือเป็นเด็กวิทย์ที่เก่งเอามากๆ แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ ตลอดทั้งเรื่องตัวละครทั้งสองคนนั้นแทบไม่ได้เจอหน้ากันตัวเป็นๆ เลย แต่อาศัยวิธีการสื่อสารผ่านระบบแชทออนไลน์ (คล้ายๆ Line) และเนื้อเรื่องก็เดินไปแบบคู่ขนานจากสองมุม โดยยุนนั้นจะรับมือสัตว์ประหลาดอยู่ในญี่ปุ่น ขณะที่เมย์จะเดินทางเพื่อไขปริศนาของเหล่าสัตว์ประหลาดไปในหลายๆ ประเทศทั่วโลก แต่ก็ร่วมมือกันผ่านการสื่อสารออนไลน์แบบ Chat ซึ่งดูเข้าถึงผู้ชม Gen ใหม่มาก และฉากของเรื่องก็ไม่ได้มีเฉพาะในญี่ปุ่นอย่างเดียวเหมือนภาคอื่นๆ มีซีนความร่วมมือกันแก้ปัญหาในระดับสากล และมีโครงเรื่องที่ดูมีมิติมากกว่าที่จะเป็นแค่หนังสัตว์ประหลาดถล่มเมืองเหมือนที่ผ่านมา 

 

เจ็ทจากัวร์คือตัวเอกตัวจริง 

 ปฎิเสธไม่ได้เลยครับว่า ก็อตซิลล่าภาคนี้ เจ็ทจากัวร์ดูโดดเด่นกว่าก็อตซิลล่ามากๆ จากจุดเริ่มต้นที่เคยปรากฏใน Godzilla vs Megalon ปี 1973 ซึ่งเหมือนกับเอาหุ่นมาชินก้ามายำรวมกับอุลตร้าแมน (ที่สมัยนั้นกำลังดัง) ถูกนำกลับมาตีความใหม่ในภาค Singular Point โดยมีจุดเริมต้นเป็นแค่หุ่นกระป๋องที่ถูกสร้างขึ้นมาทำงานรับจ้างสารพัด แล้วค่อยๆ พัฒนาตนเองจนเริ่มมีระบบ AI ที่คิดและเรียนรู้ได้เอง ไปจนกระทั่งถึงการต่อสู้ในฉากสุดท้ายที่เจ็ดจากัวร์สามารถขยายร่างได้ (ในเวอร์ชั่นเก่าก็ขยายร่างได้นะครับ อย่างที่บอกว่าได้รับอิทธิพลมาจากอุลตร้าแมนเต็มๆ เลย) ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง จะใส่ชื่อเจ็ตจากัวร์เป็นตัวเอกของเรื่องนี้แทนก็อตซิลล่าก็ไม่มีใครว่า เพราะบทแกเด่นจริงๆ สมัยก่อนโตโฮเองก็เกือบจะทำหนังเดี่ยวของเจ็ทจากัวร์มาแล้ว แต่เพาะตอนนั้นกลัวว่าจะขายไม่ได้ ก็เลยเอามาพ่วงกับก็อตซิลล่าที่เราเห็นกันนั่นแหละครับ  

เสียดายอย่างเดียว พอดูก็อตซิลล่าภาคนี้จบแล้ว อยากได้ของเล่นของเจ็ตจากัวร์มากๆ โดยเฉพาะเวอร์ชั่นสุดท้าย แต่กลับไม่ค่อยมีใครทำออกมาขายกันสักเท่าไหร่ แปลกใจเหมือนกัน 

 

ไม่ใช่ทุกคนจะชอบก็อตซิลล่าภาคนี้ 

แม้ก็อตซิลล่าภาคนี้จะได้รับกระแสคำชมในแง่บวกค่อนข้างมาก อย่างน้อยทีมงานแถวนี้ก็ชอบกันทุกคน (โดยเฉพาะถ้าเทียบกับ Godzilla Planet อนิเมไตรภาค) แต่ถ้ามองแบบโลกไม่สวย แม้ตัวอนิเมจะค่อนข้างทำออกมาเพื่อเอาใจแฟนๆ รุ่นใหม่ๆ และใส่ easter egg เอาไว้เอาใจแฟนรุ่นเก่าค่อนข้างมาก แต่ก็มีแฟนๆ บางส่วนที่อาจจะไม่ถูกใจกับหนังที่อัดความเป็นวิทยาศาสตร์เอาไว้อย่างหนักหน่วง ในขณะที่ฉากถล่มเมืองที่เป็นจุดขายของก็อตซิลล่านั้นกลับไม่ค่อยดูโดดเด่นในภาคนี้มากนัก เอาจริงๆ ถ้าสังเกตดู ก็อตซิลล่าภาคนี้ แทบไม่มีฉากคนเสียชีวิตให้เห็นเลยครับ หรือการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ประหลาด ก็ไม่ใช่การยกกองทัพมาต่อต้าน หรือสาดอาวุธสงครามใส่ แต่อาศัยการไขปริศนาร่วมกันของสองตัวละครหลักบวกพลังพระเอกของเจ็ทจากัวร์ทำให้เหตุการณ์สงบลงได้ ซึ่งพล็อตแบบนี้แม้จะสดใหม่ และน่าสนใจ ถูกใจแฟนๆ และนักวิจารณ์ แต่คนทั่วไปที่อยากดูหนังสัตว์ประหลาดตีกันมันส์ๆ ก็อาจจะไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ บางคนก็อาจจะไม่ถูกใจกับเหล่าสัตว์ประหลาดที่ภาคนี้ดูมีสีสันสดใสสไตล์ลูกกวาดแปลกๆ ดูแล้วอาจจะไม่ค่อยคุ้นตามากนัก ซึ่งแรกๆ ผมก็ดูแล้วตะหงิดๆ อยู่ แต่พอดูไปก็เริ่มรู้สึกคุ้นตามากขึ้น 

 

ภาคสองจะมาหรือเปล่า 

หลังจากดูเรื่องนี้จบครบทุกตอนไป หลายๆ คนก็คงรอที่จจะดูซีซัน 2 กันต่อ เพราะเนื้อหาปูไปทางซีซัน 2 ค่อนข้างมาก ตั้งแต่ตัวละครหลายตัวที่เปิดตัวในภาคนี้แต่ยังไม่มีบทบาทชัดเจน ปริศนาบางอย่างที่ยังไม่กระจ่าง ไปจนถึงเมก้าก็อตซิลล่าที่ปรากฎตัวตอนท้ายเรื่อง มันเป็นการปูทางว่า เรื่องนี้น่าจะยังไม่จบ ทว่าปัญหาก็คือตัว Netflix เองก็ดูเหมือนจะชอบ “ตัดตอน” ซีรี่ส์ที่ทำยอดได้ไม่ถึงเป้าอยู่บ่อยๆ แม้กระแสตอบรับและคำวิจารณ์จะดี แต่ผมก็ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าก็อตซิลล่าภาคนี้ประสบความสำเร็จในระดับ Mass หรือเปล่า เพราะเนื้อหาไซไฟหนักๆ แบบนี้อาจจะเข้าถึงคนทั่วไปได้ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน แต่วันแรกๆ ก็เหมือนเห็น Singular Point คิดอันดับ Top 10 ในไทยอยู่นะครับ เอาเป็นว่าเรามาลุ้นไปด้วยกันว่า เราจะได้ดูเรื่องราวของยุนกับเมย์กันต่อไหม และภาคหน้าจะได้เห็นเจ็ตจากัวร์ตีกับเมก้าก็อตซิลล่าหรือเปล่า...ให้คุ้กกี้ทำนายกัน.. 

  

 


การชำระเงินผ่าน อินเตอร์เน็ต แบงกิ้ง

(เสียค่าบริการ Vat 7%)

powerupmag

การชำระเงินผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส

(เสียค่าบริการ Vat 7%)

powerupmag

ช่องทางขนส่งสินค้า

จัดส่งสินค้าภายใน 3-7 วันทำการ

powerupmag
Copyright © 2018 All rights reserved. | powerupmag.com