Mairimashita! Iruma-ku อิรุมะคุง ผจญในแดนปีศาจ!
Mairimashita! Iruma-ku
อิรุมะคุง ผจญในแดนปีศาจ!
ในบรรดาอนิเมใหม่ๆ ที่ถูกพูดถึงค่อนข้างมากในรอบ 2-3 ปีนี้ นอกจากกลุ่มอนิเมกระแสหลักจากการ์ตูนค่ายจัมป์ และอนิเมจากไลท์โนเวลแนวต่างโลกที่มีให้ชมกันเยอะมาก ก็ยังมีผลงานอนิเมแนวโชเน็นที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จที่ญี่ปุ่นไม่น้อย ทั้งในแง่เรตติ้งทางโทรทัศน์ที่เคยไต่ขึ้นถึงอันดับ Top 10 ของญี่ปุ่น ส่งผลให้มีการประกาศสร้างอนิเมซีซัน 2 ตามมาอย่างรวดเร็ว (และซีซัน 2 ก็กำลังออกอากาศอยู่ในตอนนี้ด้วย) ไปจนถึงกระแสตอบรับจากแฟนๆ ที่ค่อนข้างดีไม่น้อย ผลงานเรื่องที่ว่าก็คือ อิรุมะคุง ผจญในแดนปีศาจ! หรือ Mairimashita! Iruma-ku ที่สร้างต้นฉบับหนังสือการ์ตูนของ นิชิ โอซามุ นั่นเองครับ ซึ่งผลงานเรื่องนี้ก็เป็นอนิเมอีกเรื่องที่ผมรู้สึกว่า หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไปด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ แต่ถ้าลองได้ดูไปสักระยะหนึ่งล่ะก็ จะพบว่าเนื้อเรื่องมันสนุกและน่าติดตามมากเลยล่ะ
ขอต้อนรับสู่โลกปีศาจ
อนิเมเรื่อง อิรุมะคุง ผจญในแดนปีศาจ! เป็นเรื่องราวของ สึซึกิ อิรุมะ เด็กหนุ่มอายุ 14 ปีชีวิตสุดอาภัพน่าสงสาร ที่ถูกพ่อแม่ใจร้ายขายให้กับปิศาจเพราะความโลภบังตา แต่อิรุมะกลับได้รับความเอ็นดูจากซัลลิแวน หนึ่งในสามผู้ทรงอำนาจแห่งโลกปีศาจเนื่องจากซัลลิแวนนั้นไม่มีหลาน เขาจึงรับอิรุมะเป็นหลานคอยดูแลอิรุมะเป็นอย่างดีพร้อมกับส่งอิรุมะเข้ามาเรียนใน “บาบิลุส” โรงเรียนโลกปิศาจ ทั้งที่ตัวอิรุมะนั้นเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาแท้ๆ แถมเจ้าตัวยังไม่อยากเด่นดังด้วยเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ว่าตนเองเป็นมนุษย์ แต่กลับสร้างวีรกรรมอันน่าเหลือเชื่อตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจไว้มากมายจนชื่อเสียงของอิรุมะนั้นกลายเป็นที่รู้จักไปทั้งโรงเรียน!? เรื่องราวการใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนโลกปิศาจอันแสนสนุกสนานของอิรุมะกับเหล่าผองเพื่อนปิศาจที่ไม่ธรรมดาได้เริ่มขึ้นแล้ว!! .
ลำดับขั้น (แรงค์) ของเหล่าปีศาจ
อิรุมะนั้นเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ในโลกปีศาจ แน่นอนว่าตัวเขานั้นไม่มีทั้งพลังความสามารถของปีศาจและไม่มีพลังเวทด้วย แต่เขาเองก็สามารถใช้พลังเวทของปีศาจได้ผ่านแหวนแห่งความตะกละที่จะเก็บพลังเวทของซัลลิแวนเอาไว้ทำให้อิรุมะสามารถใช้พลังเวทของซัลลิแวนและปิดบังตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ได้ แถมยังช่วยให้เจ้าตัวสามารถสร้างผลงานในโรงเรียนจนได้จนได้เลื่อนระดับแรงค์ปีศาจ (Omi No Jorestsu) ขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งแรงค์ของปีศาจนั้นก็เป็นเหมือนการจัดลำดับความแข็งแกร่งของเหล่าปีศาจซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 10 ระดับขั้น โดยการจัดแรงค์จะเริ่มตั้งแต่ปีศาจได้เข้าเรียนในโรงเรียนปีศาจ และจะเพิ่มหรือลดระดับผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียน โดยแรงค์นั้นจะอยู่ติดตัวไปแม้จะจบจากโรงเรียนไปแล้ว แถมยังมีผลต่อสถานะทางสังคมในโลกปีศาจอีกด้วย
วัฏจักรปีศาจของอิรุมะในซีซันสอง
อนิเมซีซัน 1 นั้นได้มีการทิ้งท้ายถึงร่างใหม่ของอิรุมะที่จะปรากฏในซีซัน 2 เอาไว้ ซึ่งจริงๆ ก็คืออิรุมะที่บุคลิกและนิสัยเปลี่ยนแปลงไปในเชิงก้าวร้าวมากขึ้น โดยในเรื่องอธิบายสิ่งนี้ด้วยคำว่า วัฏจักรปีศาจ ทว่าจริงๆ แล้วมนุษย์อย่างอิรุมะนั้นจะไม่มีช่วงเวลาแบบนี้เหมือนปีศาจตนอื่นหรอกครับ แต่เป็นผลมาจากปีศาจ (อาริ) ที่สิงอยู่ในแหวนแห่งความตะกละของอิรุมะนั่นเอง ทว่าถึงแม้นิสัยของอิรุมะจะเปลี่ยนไป เถื่อนขึ้น เกรียนขึ้น (และเท่ขึ้นด้วย) แต่อิรุมะโหมดแบดบอยก็ยังคงแคร์เพื่อนร่วมชั้นของตนและพยายามหาหนทางที่จะเปลี่ยนแปลงห้องเรียนของตนให้ดีขึ้นด้วยการหาหนทางย้ายห้องแอบนอร์มอลคลาสไปเรียนในห้อง “โรยัลวัน” ซึ่งเป็นห้องเรียนเก่าของอดีตจอมมารแทน เนื้อหาช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่สนุกมากอีกช่วงหนึ่ง และถือเป็นไฮไลท์ของซีซัน 2 เลยครับ ที่น่าสนใจคือดูเหมือนแฟนๆ การ์ตูนเรื่องนี้โดยเฉพาะสาวๆ จะชอบอิรุมะโหมดแบดบอยกันเยอะมากเลยล่ะ
แอบนอร์มอลคลาส
ในอนิเมซีซันแรก เนื้อหาจะโฟกัสไปที่ตัวอิรุมะและเพื่อนสนิมอีก 2 คนก็คือ คลาร่า วาลัค และ แอสโมเดียส อลิซ(อัสคุง) แต่ในซีซันใหม่นี้ เรื่องราวจะเริ่มโฟกัสไปยังเพื่อนๆ ของอิรุมะมากขึ้น โดยเฉพาะเนื้อเรื่องในบทโรยัลวันที่เราจะได้เห็นเพื่อนร่วมชั้น “แอบนอร์มอลคลาส” ของอิรุมะ เริ่มโชว์บทบาทเด่นกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเพื่อนๆ ของอิรุมะแต่ละคนก็ล้วนแต่มีบุคลิก นิสัย และความสามารถที่ไม่ธรรมดาแตกต่างกันไป โดยในซีซันแรกนั้นก็อาจจะมีบทให้เพื่อนๆ ของอิรุมะได้โชว์เด่นอยู่บ้าง เช่น เคโรริ ที่มีบทเด่นในเนื้อเรื่องช่วง “อาคุดอล”ในท้ายซีซัน 1 แต่ในซีซันใหม่นี้ เราจะได้เห็นบทบาทของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในเนื้อเรื่องช่วงโรยัลวัน ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า ตัวอิรุมะและเพื่อนๆ จะมีพลังและความสามารถมากพอที่จะก้าวตามรอยเส้นทางของราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่
การ์ตูนฮิตของโชเน็นแชมเปี้ยนรายสัปดาห์เรื่องล่าสุด
ในบ้านเรา จะรู้จักโชเน็นจัมป์ โชเน็นซันเดย์ และโชเน็นแมกกาซีนกันดีอยู่แล้ว เพราะนิตยสารสามเล่มนี้ถือเป็นตัวท็อปของนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ของญี่ปุ่น ที่มีการ์ตูนดังถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมมากมาย แต่เรื่อง อิรุมะคุง ผจญในแดนปีศาจ! นี้เป็นการ์ตูนที่ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นแชมเปี้ยนรายสัปดาห์ของ สนพ.อาคิตะโชเท็น ซึ่งอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเราเท่าไหร่ แต่โชเน็นแชมเปี้ยนเองก็มีการ์ตูนฮิตอยู่ไม่น้อยนะครับ อย่างเช่น Yowamushi Pedal (โอตาคุน่องเหล็ก) , บากิ หรือ Saint Seiya: Next Dimension เป็นต้น (ถ้าใครจำได้ สมัยก่อนบ้านเราก็เคยมีนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากโชเน็นแชมเปี้ยนด้วยนะ) ซึ่งอิรุมะคุงก็ถือเป็นการ์ตูนฮิตอีกเรื่องของนิตยสารเล่มนี้ และพออิรุมะคุงถูกนำไปสร้างเป็นอนิเม ก็ทำให้ยอดขายของหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายรวมเล่มได้ถึง 5 ล้านเล่มเลยครับ
ผลงานเด่นของ Bandai Namco Pictures
สตูดิโอผู้ผลิตอนิเมเรื่อง อิรุมะคุง ผจญในแดนปีศาจ! ทั้งสองซีซันก็คือ Bandai Namco Pictures ซึ่งพอเห็นชื่อแล้วหลายๆ คนอาจจะนึกไปถึงบริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่ที่ชอบทำร้ายกระเป๋าสตางค์ของเรา แต่จริงๆ แล้ว Bandai Namco Pictures หรือ BNP เป็นสตูดิโออนิเมที่แยกตัวออกมาจากซันไรส์เมื่อปี 2015 (ซึ่งปัจจุบัน ซันไรส์ก็อยู่ในเครือ Bandai เหมือนกัน อย่าแปลกใจ) โดย BNP จะมุ่งเน้นสร้างอนิเมโดยมีเป้าหมายที่กลุ่มเด็กและครอบครัวเป็นหลักครับ ผลงานที่ผ่านมาที่ดังๆ ก็มี Aikatsu ซีรี่ส์ไอดอลยอดฮิตในกลุ่มเด็กผู้หญิงและกินทามะ (ตั้งแต่ปี 2016) เป็นต้น โดยเรื่อง อิรุมะคุง ผจญในแดนปีศาจ! นี้ เป็นผลงานที่ BNP ผลิตเพื่อออกอากาศทางช่อง NHK Educational TV ซึ่งเป็นช่องเด็กและเยาวชนของทางญี่ปุ่นครับ เนื้อหาของเรื่องจึงค่อนข้างคลีนและเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย แถมยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีไม่น้อยเลย
หาชมในไทยได้ทุกซีซัน และดูฟรีด้วย
สำหรับคนที่สนใจอนิเมเรื่องนี้ ก็สามารถหาชมซีซันล่าสุดได้แบบฟรีๆ ถูกลิขสิทธิ์ผ่านทาง Youtube ของ Muse Thailand และ bilibili (App) ซึ่งมีแบบซับไทยให้ชมกันวันเดียวกับทางญี่ปุ่นเลย (อัพเดทตอนใหม่ประมาณหกโมงเย็นวันเสาร์) ส่วนซีซันแรกก็มีให้ชมกันทาง bilibili (ฟรี) และ Netflix ครับ (อันนี้ไม่ฟรี) ใครที่สะดวกช่องทางไหนก็เชิญได้เลยครับ ถึงแม้ลายเส้นของอนิเมอาจจะไม่ได้สวยมาก แต่เนื้อเรื่องสนุกสไตล์การ์ตูนโชเน็น ดูง่ายตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน และเพลงเปิดของ Da Pump ก็ฟังแล้วติดหูใช้ได้เลยล่ะ
