รีเทิร์นทูกันดั้มเวิล์ด Return to Gundam World 

รีเทิร์นทูกันดั้มเวิล์ด Return to Gundam World 


Return to Gundam World 

เริ่มต้นครั้งแรกของคอลัมน์ก็ต้องเป็นเรื่องของกันดั้ม follow ตามชื่อคอลัมน์กันก่อน แต่เนื่องจากเวลา 40 ปีหลังจาก RX-78 GUNDAM ยืนขึ้นครั้งแรกที่ไซต์ 7 นั้น ได้มีการออกแบบกันดั้มออกมาอีกมากมาย(แทบจะมากกว่าจิมด้วยซ้ำมั้ง 555)  ดังนั้นในครั้งนี้จึงขอโฟกัสที่กันดั้มในสงคราม 1 ปี (One Year War) ของศักราช Universal Century ดั้งเดิมก่อน ส่วนประวัติเพิ่มเติมจาก Gundam Origin และกันดั้มในจักรวาลอื่นๆจะขอกล่าวถึงในภายหลังนะครับ  

  

RX-78-1 GUNDAM “Prototype” 

กันดั้มตัวแรกของ V – Project นั้นไม่ใช่เครื่องของ อามุโร่ เรย์ ในภาพยนตร์ แต่เป็นเครื่อง 78-1 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองภารกิจ close combat ที่เน้นความคล่องตัวในการรบ ต่างจาก GunTank และ GunCannon โมบิลสุทสองแบบแรกของโปรเจก ที่มุ่งเน้นไปที่อำนาจการยิงสนับสนุนระยะกลาง และเพื่อชดเชยอำนาจการยิงที่ลดลงนี้ ทางสหพันธ์โลกจึงได้เริ่มพัฒนาอาวุธลำแสง(Beam) ทั้งบีมไรเฟิล และบีมเซเบอร์ ขึ้นมา รวมทั้งพยายามปรับปรุงระบบต่างๆสำหรับการต่อสู้ในอวกาศให้มีประสิทธิภาพขึ้น(ก็ศัตรูคือพวกซีออนซึ่งอยู่ที่ไซต์ 3 ในอวกาศนี่นะ) เครื่อง 01 จึงเป็นเครื่องต้น(prototype) ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ทดสอบระบบต่างๆ เป็นหลัก  

เครื่อง 01 เคยปรากฏในรูปแบบ roll out สีเทา-แดง แต่แบบที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุดคือคู่สี ดำ-ขาว-แดง ตามแบบดีไซน์ MSV ของอาจารย์คุนิโอะ โอคาวารา มีจุดสังเกตความแตกต่างจากเครื่อง 78-2 ที่ชัดเจนคือส่วน ข้อมือ เอวและ เกราะข้อเท้า (ถ้าเป็น roll out ส่วนหัวจะต่างชัดเจนด้วย) นอกจากนี้อาวุธหลักของ 01 ยังเป็นบีมไรเฟิลรุ่น XBR-M79-04G รุ่นก่อนที่จะพัฒนามาเป็น XBR-M79-07G ของเครื่อง 02 ที่เราคุ้นเคย 

เครื่อง 01 ถูกส่งไปทดสอบระบบคอร์บล็อก FF-X5 Prototype Core Fighter และระบบต่างๆบนโลกก่อนที่จะถูกส่งไปยัง Side 7 เพื่อทำการทดสอบเพิ่มเติม แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างเป็นทางการ แต่ว่ากันว่าเครื่อง 01 นั้นได้ถูกทำลายลงในระหว่างการโจมตีของ Zeon ที่ไซต์ 7 ซึ่งก็คือการโจมตีในฉากเปิดเรื่องของ GUNDAM นั่นเอง 

  

ข้อมูลจำเพาะของ RX-78-01 

ความสูง 18.0 เมตร (ถึงส่วนหัว ไม่รวมเสาอากาศ) 

น้ำหนัก 42.4 เมตริกตัน เมื่อไม่ติดอาวุธ และ 59 เมตริกตัน เมื่อติดอาวุธหลัก 

แหล่งกำเนิดพลังงาน เตาปฏิกรณ์ฟิวชั่น Minovsky Ultracompact  ให้กำลัง  1380 กิโลวัตต์ 

แรงขับ 55500 กก 

  

พิสัยเซนเซอร์ 5700 เมตร 

เกราะ ลูนาร์ ไทเทเนียม 

เวลาในการหมุน 180 ° 1.5 วินาที 

อาวุธมาตรฐาน 

ปืนวัลแคน ขนาด 60 มม จำนวน 2 กระบอก 

บีมเซเบอร์(หรือบีมเจเวลิน)  2 ด้าม 

บีมไรเฟิล XBR-M79-04G 

โล่ 

อาวุธเสริม 

ปืนกล 120 มม 

ไฮเปอร์บาซูก้า 

กันดั้มแฮมเมอร์ 

 

RX-78-3 GUNDAM G-3 

GUNDAM G-3 นั้นมีลักษณะภายนอกที่แทบไม่แตกต่างจากเครื่อง 78-2 ของ อมุโร่ เรย์ เลย ยกเว้นคู่สีที่เป็นแบบ Low Visibility  โดยภารกิจหลักของเครื่อง  RX-78-3 หรือ G-3 ก็คือการทดสอบเทคโนโลยี Magnet Coating*  (ซึ่งต่อมาเทคโนโลยีนี้ก็ได้นำไปใช้กับ RX-78-2 ของอมุโร่ด้วย  นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ NICN ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้เอง (แบบเดียวกับที่ติดตั้งกับ  RX-78NT-1 GUNDAM "ALEX") และ Laser Accelerator รุ่นใหม่สำหรับเตาปฏิกรณ์เทอร์โมนิวเคลียร์  ทำให้ G-3 สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วเป็นสองเท่าของ RX-78-2 ที่ติดตั้งระบบ ICN  ในช่วงแรกๆของการรบ  

 

 

มีบันทึกว่าระหว่างการโจมตีไซต์ 7 ของซีออนในเดือนกันยายน UC 0079 (ฉากเปิดในอนิเมะ) เครื่อง RX-78-1 ถูกทำลาย ส่วนเครื่อง RX-78-3 นั้น แม้จะได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ แต่ด้วยความลับในการทดสอบและการประเมินว่าความเสียหายนั้นยังพอจะสามารถฟื้นฟูสภาพได้ มันจึงถูกโหลดขึ้นยาน White Base ไปด้วย เพื่อนำอะไหล่บางส่วนมาใช้เป็นชิ้นส่วนสำรองให้แก่เครื่อง RX-78-2 Gundam  แต่เมื่อยาน White Base เดินทางมาถึง Odessa เครื่อง G-3 ก็ถูกย้ายลงจากยานเพื่อขนส่งต่อไปยัง Augusta Lab  เพื่อทำการทดสอบควบคู่ไปกับกันดั้มรุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า ALEX (ตรงนี้มี Joke แบบ non-official หรือข่าวลือนั่นแหละ ...ว่า ALEX นั้นมาจากข้อจำกัดในการพูดภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่น ที่จริงๆจะพูดถึง RX แต่กลายเป็น ALEX ไป ก็เลยได้ชื่อใหม่เท่ๆ) แต่บางแหล่งข่าวก็บอกว่ามันถูกส่งไปวิจัย-พัฒนาต่อที่ Luna II ในอวกาศ และไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่าเครื่อง G-3 นั้นมีชะตากรรมเช่นใดหลังจากนั้น 

 

ใน version นิยาย เรื่องราวของ G-3 จะแตกต่างออกไปจากเรื่อง back up ของ MSV อยู่บ้าง โดยเครื่อง G-3 ได้กลายเป็นเครื่องประจำตัวของอมุโร่ (เราจึงเห็นข้อมูลบางแหล่งระบุว่า pilot ของ G-3 ก็คืออมุโร่ เรย์) หลังจากเครื่อง RX-78-2 ได้เสียหายจากการปะทะกับ ลาล่า  นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องราวในมังงะที่มีรายละเอียดแตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน  

  

* Magnet Coating   คือการการเคลือบแม่เหล็กลงในข้อต่อเพื่อเพิ่มการตอบสนองให้เร็วขึ้น ในกรณีของ RX-78-2 นั้น นิวไทป์ อมุโร่ เรย์ มีประสาทการตอบสนองในการต่อสู้ที่ไวมาก แต่เครื่อง GUNDAM นั้นไม่สามารถตอบสนองต่อตัวเขาได้ทัน เทคโนโลยี Magnet Coating  นี้จึงช่วยให้ GUNDAM ตอบสนองต่ออมุโร่ได้เร็วขึ้น ซึ่งยิ่งช่วยให้ประสิทธิภาพในการรบสูงขึ้น 

  

   General Characteristics 

ข้อมูลจำเพาะ RX-78-3 

  

⦁ ความสูง 18.0 เมตร (รวมเสาอากาศ 18.5 เมตร) 

⦁ น้ำหนักเปล่า 43.4 ตัน  

⦁ น้ำหนักเมื่อติดอาวุธหลัก  60.0 ตัน 

⦁ แหล่งกำเนิดพลังงาน เตาปฏิกรณ์ฟิวชั่น  ให้กำลัง 1380 กิโลวัตต์   

แรงขับ 55500 กิโลกรัม 

⦁ พิสัยเซ็นเซอร์ 5700 เมตร 

⦁ เกราะ ลูนาร์ ไทเทเนียม 

⦁ เวลาในการหมุน 180 องศา   1.1 วินาที 

⦁ อาวุธมาตรฐาน 

⦁ ปืนวัลแคน 60 ม.ม. จำนวน 2 กระบอก  

⦁ บีมเซเบอร์ (หรือบีมเจเวลิน) 2 ด้าม 

⦁ บีมไรเฟิล XBR-M79-07G 

⦁ โล่ 

  

⦁ อาวุธเสริม  

⦁ ไฮเปอร์บาซูก้า  

⦁ กันดั้มแฮมเมอร์ 

⦁ ไฮเปอร์แฮมเมอร์ 

⦁ ซุเปอร์นาปาล์ม 

 

RX-78-4 และ RX-78-5  คู่หูมหาประลัย 

  

เมื่อกองทัพซีออนเริ่มพ่ายแพ้ในสมรภูมิอเมริกาเหนือ แอฟริกา โอเดซซ่า และได้เริ่มทยอยถอนกำลังกลับไปยังอวกาศ ทางสหพันธ์โลกจึงเล็งเห็นว่าสมรภูมิหลักนั้นน่าจะเปลี่ยนจากบนโลกไปเป็นอวกาศ ประกอบกับข้อมูลและความสำเร็จที่ได้รับรายงานมาเรื่อยๆ จากการต่อสู้ของ RX-78-2  ทางสหพันธ์ฯจึงได้ตัดสินใจพัฒนากันดั้มรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกันดั้มสำหรับนิวไทป์อย่าง Alex หรือกันดั้มสำหรับภารกิจในอวกาศโดยเฉพาะอย่างเจ้าแฝด RX-78-4 Gundam G04 และ RX-78-5 Gundam G05  

 

เครื่อง 04 และ 05 มีพื้นฐานมาจากแผนแบบเดียวกัน โดยมีการเปลี่ยนแบ็คแพ็คและชุดตัวขับเคลื่อนหลักที่มีพลังมากขึ้นกว่า RX-78-2 ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวโมบิลสูทมีความคล่องตัวมากขึ้นแล้ว ยังเพิ่มระยะเวลาปฏิบัติการให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย ซึ่งนั่นจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในแผนการต่อสู้ที่ต้องใช้ระยะเวลาการรบต่อเนื่องยาวนาน เช่นการบุกโจมตีป้อมปราการอวกาศอย่าง โซโลมอน (Solomon) หรือ อาบาวคุ (A Baoa Qu) และนอกจากการเพิ่มแรงขับชุดขับเคลื่อนแล้ว การเปลี่ยนแปลงใหญ่อีกจุดหนึ่งก็คือการยกเลิกระบบคอร์บล็อกซิสเท็ม (Core Block System)  เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับระบบทำหล่อเย็นซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเพิ่มเอาต์พุตของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและการใช้ระบบอาวุธที่หลากหลายและทรงพลังมากขึ้น เช่นระบบอาวุธลำแสง เป็นต้น  

 

มีทั้งสองเครื่องจะมีระบบอาวุธพื้นฐานเช่นปืนวัลแคน บีมเซเบอร์ และแฮนด์บีมกัน ที่เหมือนกัน แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนของเครื่อง 04 และ 05 หลักๆ นั้นก็คือระบบอาวุธที่โหลดเพิ่มสำหรับใช้งานในภารกิจ โดยเครื่อง 04 นั้นติดตั้งอาวุธลำแสงอย่างเมก้าบีมลอนเชอร์ ซึ่งเป็นอาวุธลำแสงขนาดใหญ่ที่ทรงพลังซึ่งใช้พลังงานจากชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าภายนอกที่ติดตั้งบนแบ็คแพ็ค โดยอาวุธชนิดนี้มีอานุภาพในการทำลายเรือรบได้ด้วยการยิงเพียงครั้งเดียว ดังนั้นภารกิจหลักของเครื่อง 04 จึงเป็นการจัดการกับกองเรือของข้าศึกนั่นเอง แต่ระบบนี้ยังมีความไม่เสถียรในการดึงพลังจากเครื่องปฏิกรณ์ และต้องมีการพักเพื่อหล่อเย็นระบบ ทำให้ไม่สามารถยิงอย่างต่อเนื่องได้นานนัก ซึ่งในจุดอ่อนนี้ทำให้เครื่อง 04 ต้องได้รับการคุ้มกันระหว่างพักเพื่อทำการชารจ์และหล่อเย็นระบบ ซึ่งจิมทั่วไปอาจไม่ดีพอสำหรับภารกิจนี้ ดังนั้นเครื่อง 05 จึงเป็นบัดดี้หลักที่จะคอยคุ้มกันเครื่อง 04 โดยระบบอาวุธของ 05 นั้นติดตั้งไจแอนท์แกตลิ่ง ขนาด 90 มม. ที่ยิงได้ 50 รอบต่อวินาที  ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธที่ใช้ระบบกระสุนที่มีอานุภาพสูงที่สุด การป้อนกระสุนทำด้วยสายพานผ่านดรัมแม็กกาซีนขนาดใหญ่ที่มีเสถียรภาพทำให้ยิงได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีลิมิตเตอร์ที่ป้องกันลำกล้องร้อนจนเกินไป แต่นักบินสามารถเลือกปิดลิมิตเตอร์ได้หากมีความจำเป็น  ซึ่งจะเห็นได้ว่าระบบอาวุธของเครื่อง 05 นั้นมีอานุภาพในการทำลายล้างน้อยกว่าเครื่อง 04 แต่มีความเสถียรมากกว่า ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผลชัดเจนในการรบจริงในเวลาต่อมา 

  

ในช่วงปลาย UC 0079 กันดั้มเครื่อง 04 และ 05 ได้รับมอบหมายให้ประจำการบนเรือรบเพกาซัสคลาส (คลาสเดียวกับ White Base) รหัส SCVA-72 Thoroughbred ในการรบกับกองกำลังของซีออน เหนือเขตกรานาดา บนดวงจันทร์ เครื่อง 04 ที่ขับโดย ลูซ คาสเซล ได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญ โดยเขาได้ฝืนยิงเมก้าบีมลอนเชอร์ ทั้งที่ระบบโอเวอร์โหลดเพื่อปกป้องพวกพ้อง  ซึ่งนั่นยังผลให้ RX-78-4 Gundam เกิดการระเบิดขึ้น และทำให้ลูซ เสียชีวิตไปต่อหน้า ฟอร์ด โรมเฟลโลว์  นักบินของเครื่อง 05  

  

ข้อมูลจำเพาะ RX-78-4 / 5 

  

⦁ ความสูง 18.0 เมตร  

⦁ น้ำหนักเปล่า 42.6 ตัน(G-04),  42.9 ตัน(G-05) 

⦁ น้ำหนักเมื่อติดอาวุธหลัก  86.5 ตัน (G-04 เมื่อติดชุดอาวุธลำแสงภายนอก) 

                                 80.5 ตัน (G-05 เมื่อติดชุดอาวุธภายนอก)   

⦁ แหล่งกำเนิดพลังงาน เตาปฏิกรณ์ฟิวชั่น  ให้กำลัง 1,550 กิโลวัตต์(G-04), 1,480 กิโลวัตต์(G-05)    

แรงขับ 70,500 กิโลกรัม 

⦁ พิสัยเซ็นเซอร์ 6,190 เมตร 

⦁ เกราะ ลูนาร์ ไทเทเนียม 

⦁ เวลาในการหมุน 180 องศา   1.1 วินาที 

⦁ อาวุธมาตรฐาน 

⦁ ปืนวัลแคน 60 ม.ม. จำนวน 2 กระบอก  

⦁ บีมเซเบอร์ 2 ด้าม 

⦁ แฮนด์บีมกัน 2 ชุด 

⦁ บีมไรเฟิล XBR-M79-07G 

⦁ โล่ 

  

⦁ อาวุธเสริม  

⦁ บีมไรเฟิล XBR-M-79H-2 

⦁ ไฮเปอร์บาซูก้า 

⦁ ไฮเปอร์บีมไรเฟิล  

⦁ เมก้าบีมลอนเชอร์ (G04) 

⦁ ไจแอนท์บาซูก้า (G05) 

 

RX-78-6 Mudrock ... กันดั้มปืนโต 

แม้  RX-78-2 Gundam จะประสบผลสำเร็จมากมายในการทำการรบจริง แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีจุดบกพร่องเสียทีเดียว โดยจากบันทึกการรบของ RX-78-2 Gundam นั้นพบว่า มันจะขาดอำนาจการยิงหลักทันทีเมื่อแพ็คพลังงานของบีมไรเฟิลนั้นหมดพลังงานลง  RX-78-6 Mudrock Gundam จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องนั้น เพื่อให้กันดั้มยังคงไว้ซึ่งอำนาจการยิงที่สูงขณะที่ทำการรบต่อเนื่องในระยะยาว  

 

Mudrock ได้ติดตั้งปืนบีมไรเฟิลรุ่นใหม่ XBR-M79X-C2 ซึ่งใช้ Energy CAP เป็นคาร์ทริดจ์เพื่อแก้ปัญหาเรื่องรอการชาร์จ พร้อม arm-mounted grenade launchers  และเพิ่มอำนาจการยิงด้วยปืนใหญ่ขนาด 300 มม. จำนวน 2 กระบอก ติดตั้งที่บริเวณไหล่เหมือนกับ RX-77-2 Guncannon พร้อมคงไว้ซึ่งปืนวัลแคนที่ส่วนหัว ส่วนบีมเซเบอร์นั้นย้ายจากบริเวณแบ็คแพ็คไปยังด้านข้างของขาแทน นอกจากนี้ Mudrock ยังได้รับการปรับปรุงเกราะส่วนหน้าให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งในสาม ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความคล่องตัว Mudrock จึงติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์ที่มีกำลังสูงขึ้น แบ็คแพ็คและทรัสเตอร์ที่มีแรงขับสูงขึ้นเพื่อชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 

 

เดิมที Mudrock นั้นควรจะถูกส่งออกไปปฏิบัติการบนอวกาศเช่นเดียวกับเครื่อง 04 และ 05 แต่ระหว่างรอการส่งขึ้นสู่อวกาศนั้น กองทัพซีออนได้บุกโจมตีฐาน จารโบร เสียก่อน และกองกำลังซีออนส่วนนึงได้ค้นพบยาน Thoroughbred ซึ่งเป็นยานแม่ของเครื่อง 04, 05  ร้อยตรีเอเกอร์ (Lt. Agar) นักบินของ Mudrock จึงได้เข้าขัดขวาง ด้วยความช่วยเหลือของเอเกอร์ ทำให้ยาน Thoroughbred พร้อมเครื่อง 04, 05 ขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ แต่ Mudrock กลับต้องติดอยู่บนโลก และปรับภารกิจเป็นการไล่ล่ากองทัพซีออนบนโลกแทน และกองกำลังหลักที่เข้าปะทะกันบ่อยที่สุดก็คือ กองกำลังพิเศษมิดไนท์เฟนริวร์(ออกเสียงแบบสวีดิช) ซึ่งนำโดยพันตรีการ์เร็ต ชไมเซอร์ ของซีออน และมีบทบาทสำคัญในการรบเพื่อชิงฐานทัพแคลิฟอร์เนีย และหลังจาก Mudrock เสียหายอย่างหนักจากการสู้รบ หมวดเอเกอร์ได้ปรับบทบาทตนเป็นผู้ตรวจการณ์หน้าเพื่อชี้เป้าให้การระดมยิงปืนใหญ่ และเป็นคีย์แมนคนสำสำคัญในการเจรจายุติศึกกับกองกำลังมิดไนท์เฟนริวร์ 

  

ข้อมูลจำเพาะ RX-78-6 Gundam G-06 (Mudrock) 

⦁ ความสูง 18.0 เมตร  

⦁ น้ำหนักเปล่า 47.3 ตัน 

⦁ น้ำหนักเมื่อติดอาวุธหลัก  84.4 ตัน   

⦁ แหล่งกำเนิดพลังงาน เตาปฏิกรณ์ฟิวชั่น  ให้กำลัง 1,480 กิโลวัตต์    

แรงขับ 70,500 กิโลกรัม 

⦁ พิสัยเซ็นเซอร์ 5,900 เมตร 

⦁ เกราะ ลูนาร์ ไทเทเนียม 

⦁ อาวุธมาตรฐาน 

⦁ ปืนใหญ่ 300 ม.ม. จำนวน 2 กระบอก 

⦁ ปืนวัลแคน 60 ม.ม. จำนวน 2 กระบอก  

⦁ บีมเซเบอร์ 2 ด้าม 

⦁ เครื่องยิงลูกระเบิด arm-mounted grenade launchers  2 ชุด 

⦁ บีมไรเฟิล XBR-M79X-C2 

⦁ โล่ NFHI RGM-M-Sh-AGD 

  

⦁ อาวุธเสริม  

⦁ บีมไรเฟิล XBR-M-79E 

⦁ ไฮเปอร์บาซูก้า 

⦁ ไฮเปอร์แฮมเมอร์ 

⦁ ปืนกล HWF GMG-MG79 ขนาด 90 ม.ม. 


การชำระเงินผ่าน อินเตอร์เน็ต แบงกิ้ง

(เสียค่าบริการ Vat 7%)

powerupmag

การชำระเงินผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส

(เสียค่าบริการ Vat 7%)

powerupmag

ช่องทางขนส่งสินค้า

จัดส่งสินค้าภายใน 3-7 วันทำการ

powerupmag
Copyright © 2018 All rights reserved. | powerupmag.com