Tensei Shitara Suraimu Datta Ken หรือ เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว
อนิเมแนวเกิดใหม่ในต่างโลก (Isekai) ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากกระแสไลท์โนเวลแนวนี้ที่กำลังมาแรงทั้งในญี่ปุ่นและไทย จนทำให้มีอนิเมที่สร้างจากไลท์โนเวลแนวต่างโลกออกมาให้ชมกันเยอะมากครับ บางเรื่องก็ดังมาก บางเรื่องก็พอเอาตัวรอดไปได้ หรือบางเรื่องแค่ทำออกมาโปรโมตนิยายเฉยๆ ก็มี แต่ถ้าหากจัดอันดับไลท์โนเวลแนวต่างโลกยอดนิยมในรอบสามสี่ปีมานี้ เชื่อว่าใน 5 อันดับแรกนั้นจะต้องมีเรื่อง “เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว” แทรกอยู่แน่นอน
*เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว คืออะไร
อนิเมที่สร้างจากไลท์โนเวล ผลงานของ Fuse ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเขียนออกมาให้อ่านกันแบบออนไลน์ในเวบไซต์ housetsuka ni Narou (http://syosetu.com/) ช่วงปี 2013-2016 ซึ่งค่อนข้างได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนถูกซื้อลิขสิทธิ์มารวมเล่มโดย Micro Magazine ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันก็มีรวมเล่มออกมาแล้ว 17 เล่ม (และยังไม่จบ)
โดยในเวอร์ชั่นนิยายนั้นจะเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกนำมาเขียนปรับปรุงใหม่จากเวอร์ชั่นออนไลน์ และก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงทำยอดขายรวมกันมากกว่า 4.5 ล้านเล่ม ติดอันดับ 5 ไลท์โนเวลขายดีประจำปี 2018 ในขณะที่เวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนที่ดัดแปลงจากนิยายอีกทีก็ขายได้มากกว่า 20 ล้านเล่มและกลายเป็นเจ้าของสถิติหนังสือการ์ตูนที่เขียนจากต้นฉบับไลท์โนเวลที่ทำยอดขายได้สูงสุดในปัจจุบันด้วยนะครับ
*ฉันคือสไลม์ชื่อริมุรุ ไม่ใช่สไลม์ที่ไม่ดีหรอกนะ
เรื่องราวคร่าวๆ ก็คือ มิคามิ ซาโตรุ ชายหนุ่มพนักงานบริษัทโสดสนิทอายุ 37 ปี ได้เสียชีวิตและไปเกิดใหม่เป็นสไลม์ในอีกโลกหนึ่ง ทว่าถึงแม้เขาจะกลายเป็นมอนสเตอร์ที่ดูเหมือนจะอ่อนแอสุดๆ แต่อันที่จริงเจ้าตัวกลับมีสกิลโคตรโกงอย่างสกิลนักปราชญ์ที่เป็นเหมือนคลังความรู้สุดโกงในโลกใหม่กับสกิลนักล่าที่พอกินตัวอะไรเข้าไปก็จะได้สกิลของตัวนั้นกลับมา (เหมือนร็อคแมนน่ะครับ) แถมพอกินอะไรเข้าไปแล้วก็ยังวิเคราะห์ข้อมูลและสามารถทำซ้ำ(ก็อปปี้)ได้อีก ร่างกายก็เรียกได้ว่าเกือบๆ จะเป็นอมตะเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถึงตัวจะเล็กดูไร้พิษภัยแต่อันที่จริงนี่มันก้อนหายนะเดินได้ชัดๆ
ซึ่งประโยค “ฉันคือสไลม์ชื่อริมุรุ ไม่ใช่สไลม์ที่ไม่ดีหรอกนะ” นั้นอันที่จริงก็เป็นประโยคที่เจ้าตัวล้อมาจากเกมดราก้อนเควสต์อีกที (เป็นเกมที่ทำให้ตัวสไลม์เป็นที่รู้จักในฐานะมอนสเตอร์อ่อนแอ) ซึ่งถ้าหากใครมีปฏิกิริยากับคำพูดประโยคนี้ ริรุมุก็จะเดาไว้ก่อนเลยว่า น่าจะเป็นคนที่มาจากโลกเดียวกับตัวเองแน่ๆ
*โครงเรื่องที่ซับซ้อน แต่เข้าใจได้ไม่ยาก
ปกติอนิเมแนวต่างโลกมักจะเป็นแนวแอกชั่นแฟนตาซีที่มีตัวเอกโชว์เทพด้วยสกิลสุดโกง ซึ่งผลงานเรื่องนี้ก็เช่นกันครับ ด้วยสกิลนักล่าที่ทำให้ตัวริมุรุพัฒนาตัวเองเก่งขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถตบเกรียนศัตรูระดับเทพๆ ได้เป็นว่าเล่น (แถมในซีซันสองจะมีเหตุให้ริมุรุวิวัฒนาการไปอีกขั้นหนึ่งด้วย) อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ พล็อตเรื่องที่ซับซ้อนยิ่งกว่าการข้ามภพมาเกิดใหม่ธรรมดา ซึ่งหากอธิบายไปก็จะกลายเป็นการสปอยล์เนื้อหาจนเสียอรรถรสไปเปล่าๆ เอาเป็นว่าผู้เขียนวางโครงเรื่องไว้ค่อนข้างดี และเนื่องจากตัวต้นฉบับจริงๆ (นิยายออนไลน์) นั้นก็จบไปแล้ว ทำให้การนำโครงเรื่องมาทำเป็นอนิเมหรือคอมมิคนั้นค่อนข้างกระชับและดูสมเหตุสมผล ไม่มีการยัดเนื้อเรื่องอะไรให้ยืดย้วยจนเกินงาม แต่ถึงแม้เราจะอ่านฉบับนิยายออนไลน์มาจนจบ ก็ยังดูอนิเมได้สนุกอยู่ เพราะตัวอนิเมนั้นสร้างอิงจากต้นฉบับนิยาย(เล่ม) ซึ่งผู้เขียนได้ทำการดัดแปลงแก้ไขเนื้อหาให้ลงตัวขึ้นกว่าเดิม
*สไลม์สร้างเมือง
จุดหนึ่งที่ผมรู้สึกว่า มันทำให้อนิเมเรื่องนี้แตกต่างจากอนิเมแนวต่างโลกเรื่องอื่น ก็คือพล็อตการสร้างเมืองนี่แหละครับ อนิแนวต่างโลกหลายๆ เรื่องมักจะมีพล็อตเสริมที่ว่า คนจากโลกของเราเอาความรู้ที่ได้จากโลกเราไปใช้ในโลกอื่น (ซึ่งมักจะเป็นโลกแฟนตาซีเวทมนตร์) บางครั้งก็มักจะเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างการปรุงอาหาร การละเล่นหรือบางทีก็ยารักษาโรค เครื่องมือต่างๆ แต่สำหรับเรื่องนี้ ริมุรุได้ใช้ความสามารถของตัวเองสร้างเมืองขึ้นมาทั้งเมืองเลย นั่นก็คือ สหพันธ์จูร่าเทมเพสต์ เมืองที่เหล่าสัตว์ประหลาดมอนสเตอร์หลากหลายสายพันธุ์สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และด้วยความรู้ที่ติดตัวมาตั้งแต่ชาติอดีต ก็ทำให้จูร่าเทมเพสต์กลายเป็นอาณาจักรที่กลายเป็นศูนย์กลางของการค้าแถมยังมีกองทัพอันแข็งแกร่งที่ลองมีใครมาแหย่หนวดเสือล่ะก็ รับรองจบไม่สวยแน่นอน..ไม่เชื่อก็ลองดูอนิเมซีซัน 2 ดูสิ
*เหมือนจะฮาเร็มแต่ก็ไม่ใช่ฮาเร็ม
อนิเมเรื่องนี้มีสาวๆ สวยๆ เยอะครับ ก็ประสาอนิเมจากไลท์โนเวลนั่นแหละ แถมคาแรกเตอร์ของตัวละครหลักก็ยังออกแบบมาได้ค่อนข้างดีเลยด้วย ทว่าเอาจริงๆ ถึงจะมีสาวๆ เยอะ (แถมน่ารักด้วย) แต่ก็ไม่ใช่แนวฮาเร็มแน่ๆ ล่ะครับ เพราะถึงแม้ร่างต้นของริมุรุในชาติก่อนจะเป็นผู้ชาย แต่ร่างสไลม์รวมถึงร่างแปลงเป็นมนุษย์ (ภายหลังดูดกลืน….เข้าไป) ในโลกนี้กลับเป็นร่างกลางๆ ที่ไม่มีลักษณะทางเพศเด่นชัด (ไร้เพศ) นั่นทำให้ริมุรุดูคล้ายๆ จะเป็นหนุ่มสวยที่จะใส่ชุดผู้ชายก็ได้หรือใส่ชุดผู้หญิงก็โมเอะ และถึงแม้จะมีซีนที่เหล่าคนสนิทดูเหมือนจะหึงหวงริมุรุอยู่บ้าง แต่ความสัมพันธ์มันก็ออกไปทางนายบ่าวผู้ภักดีมากกว่า แต่ถ้าจะถามว่าเรื่องนี้มีนางเอกไหม...พูดกันตรงๆ มันก็เหมือนจะมีนะครับ..แต่เอาเป็นว่า..ค่อยๆ ดูไปดีกว่า
*ปีนี้เรายังได้ดูกันยาวๆ
อันที่จริงตามแผนเดิม “เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว ซีซัน 2” นี่จะมีความยาวพอๆ กับซีซันแรก แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ได้ทำให้อนิเมซีซัน 2 เลื่อนฉายจากตุลาคมปีที่แล้วมาเป็นมกราคมปีนี้ แถมยังต้องแบ่งออกเป็นสองพาร์ท โดยพาร์ทแรกจะจบในช่วงเดือนมีนาคม และซีซันสองพาร์ทสองจะกลับมาออกต่อในช่วงเดือนกรกฎาคม แต่ในช่วงเดือนเมษายน ก็จะมี The Slime Diaries: That Time I Got Reincarnated as a Slime (ไม่รู้ว่ามีชื่อไทยหรือเปล่า เลยขออิงชื่อภาษาอังกฤษไว้ก่อนละกัน) มาให้ดูแก้ขัดกันไปก่อนครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะเป็นภาคสปินออฟที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนที่เหมือนกับเป็นสไลม์เวอร์ชั่นคอเมดี้ที่น่าจะถูกใจแฟนๆ เรื่องนี้ไม่น้อยเลย ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูอนิเมเรื่องนี้มาก่อนเลย ภาคแรกนั้นมีลิขสิทธิ์ซับไทยให้ดูกันทั้ง Netflix และ Youtube ส่วนภาคสองนั้นก็มีให้ดูฉบับถูกลิขสิทธิ์กันไล่หลังญี่ปุ่นวันต่อวันในหลายๆ ช่องทางเลยครับ ใครที่อยากจะลองชมก็แนะนำให้ไปลองดูกันได้นะ